profender โช้คอัพ

Profender Monotube เป็นระบบแก๊สกึ่งน้ำมัน ลูกสูบใหญ่ถึง 46mm เป็นระบบ High Flow ติดตั้งแบบ Up side Down ตัวกระกล่าวเป็นเครื่องไม้เครื่องมือทำมาจากเหล็กที่ได้รับรองมาตราฐานจากประเทศญี่ปุ่นทำให้แน่ใจได้ว่าตัวกระพูดนั้นแข็งแรง แข็งแกร่งได้มาตราฐาน น้ำมันก็คุณภาพสูง เฉพาะบุคคลแก๊สจะเป็นไนโตรเจนซึ่งมีผลกระทบส่งผลให้การตอบสนองที่ดีต่อรถยนต์และยังฝากน้ำหนักของตัวโช้คอัพไว้ข้างบน นำมาซึ่งการทำให้ได้ประสิทธิภาพเวลาด้านล่างอย่างเต็มที่และยังส่งผลให้ฝุ่นโคลนไหลไปเวลาด้านล่างไม่ไปอัดที่ซีลของโช๊คอัพ สุดยอดไปเลยโช๊ค profender

ทำไมโช้คอัพ profender monotube จึงเป็นที่ชื่นชอบในขณะนี้
1.รถกระบะจำนวนมาก ผลิตออกมาแบบมีความกระด้างติดตัว เนื่องด้วยจำเป็นที่จะต้องใช้งานสำหรับการบรรทุกของหนักๆ แต่ก็ควรมีหลากหลายผู้คนที่อาจจะมิได้ใช้รถกระบะเพื่อจะบรรทั้งหมดทุกอย่างของขช้านานนั้น คงใช้สำหรับการขับเคลื่อนขี่ชีวิตรายวันเฉยๆ จึงต้องมาหงุดหงิดกับกานกระแทก สะเทือนนี้เนื่องด้วยด้านหลังเป็นแหนบ ออกมาเพื่อที่จะใช้บรรทุกและมีความนุ่มนวลต่ำลงมากยิ่งกว่าระบบสปริง แต่ถ้าผู้บริโภครถเลือกเฟ้นชนิดโช้คอัพ profender แบบโมโนทิวบ์แรงดันสูงที่มีการดีไซน์ค่าDamping โช๊คอัพโมโนทิวบ์ ที่มีแรงดึงสูง จะมีคุณสมบัติในการรั้งแรงดีดส่งผลให้ผู้โดยสารรู้สึกไม่เรรวนและแน่ใจ แทนการกระแทกแรงๆจากแหนบดีดและช่วยลดการโยนตัวของรถ

profender

2.ประสิทธิภาพไม่มีตก วิ่งช้านานไร้เหนื่อยกับโช้คอัพ profender เพราะสามารถระบายความร้อนจากตัวของเราเองได้รวดเร็วมาก น้ำมันในโช๊คไม่เป็นฟองส่งผลให้ความสามารถของโช๊คไม่แปรไป เหมือนอย่างเคย ไม่มีอันตรายไร้ความกลุ้มอกกลุ้มใจ

3.ลูกสูบHigh Flow ชนิดนี้สามารถเซ็ทให้นุ่มนวลได้ดีทีเดียว

4.โมโนทิวบ์ของโช๊ค Profender ไม่ควรต้องซ่อมหรือแปลงหลายครั้ง สามารถอยู่ได้แบบยาวๆเลย คุ้มค่าใช่หรือเปล่าละ

สมรรถภาพเยอะๆขนาดนี้ไม่ฉงนใจเลยที่เป็นที่นิยมในตอนนี้ ทั้งสะดวกสบาย สะดวกสบาย ครบครัน และที่สำคัญราคาไม่มีคุณค่าที่สูงอีก ถือได้ว่าคุ้มมากเลยทีเดียว

สิ่งที่ทำ ให้รถยนต์ของคุณ ขับเคลื่อนขี่ได้นุ่มนวล ก็เนื่องมาจาก มีโช๊คอัพคอยซับแรงกระแทกกระเทือนเอาไว้ โช๊คอัพ จะติดตั้งอยู่กับล้อรถยนต์ กับตัวสปริง โช๊คอัพ จะปฏิบัติหน้าที่ลดแรงดีดของสปริง ที่ออกจะจะเด้งดึ๋ง จากแรงสะเทือน ที่ส่งมาจากพื้นถนน ยิ่งถนนขรุขระมาก แรงสะเทือนยิ่งมากตามไปด้วย รถก็จะดีดเด้งไปมาตามแรงนั้น แต่โช๊คอัพจะช่วยซับแรงนั้นและเสริมเติมความหนืดให้กับณ เวลาด้านล่าง ช่วยทำให้ขับเคลื่อนนิ่มขึ้นและเกาะพื้นถนนมากยิ่งกว่าเดิม

สิ่งที่ช่วยเพิ่มเติมความนุ่มหนึบและลดแรงกระแทกข้างในโช๊คอัพก็คือ ระบบน้ำและแก๊ส ซึ่งการดีไซน์กระบอกของโช๊คนั้นก็มีส่วนช่วยเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งเรื่องของปริมาณน้ำมันและแก๊ส การดันและไหลของของเหลวด้านใน เข้าร่วมไปถึงฟองอากาศที่คงจะกำเนิดขึ้นภายใน

กระพูดโช๊คอัพแบ่งแยกออกเป็น 2 แบบร่วมกัน คือแบบ Twintube (กระบอกคู่) ซึ่งเป็นแบบหลักเกณฑ์ และ Monotube (กระกล่าวเดี่ยว) ซึ่งเป็นกระกล่าวที่พัฒนาขึ้นมาทีหลังและเป็นที่นิยมสูงมาก เพื่อจะให้รู้เรื่องความไม่เหมือนและข้อดีของโช๊คอัพแบบ Monotube ที่เราอยากบอกต่อ ก็เลยจำเป็นต้องขอแจกแจงหลักรูปแบบการทำงานของโช๊คอัพทั้ง 2 จำพวกเปรียบกัน

โช๊คอัพแบบเกณฑ์ Twintube
โช๊คอัพแบบ Twintube หรือกระพูดคู่ ถือเป็นหลักเกณฑ์ทั่วๆไปของโช๊คอัพในรถกระบะหรือออฟโรด การซับแรงกระแทกแรงสะเทือนจะทำเป็นแล้วได้ต่ำยิ่งกว่า ช่วงด้านล่างเลยไม่นิ่มนวล ค่อนไปทางแข็งกระด้างมากมายยิ่งกว่า

ข้างในกระบอกโช๊คอัพแบบ Twintune ดีไซน์ให้มีหน้าตาเหมือนกระกล่าวซ้อนกันสองระดับ ลำดับชั้นด้านนอกบรรจุแก๊ส ดีกรีภายในบรรจุน้ำมันไฮดรอลิก เมื่อแรงกระแทกดันตัวโช๊คอัพยุบตัวลง ลูกสูบภายในก็จะดันน้ำมันในกระกล่าวด้านในไหลลงไปยังฐานด้านล่าง ผ่านเบสวาวล์ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สั่งงานน้ำมัน ไหลออกไปสู่กระพูดภายนอกซึ่งบรรจุแก๊สเอาไว้ และเมื่อโช๊คอัพยืดตัวดึงเอาลูกสูบขึ้นไป น้ำมันข้างในก็จะหน่วงไม่ให้ลูกสูบเด้งกลับไปยังตำแหน่งเดิมเร็วทันใจเกินไป กำเนิดเป็นความแน่นหนึบหนับของขณะล่างรถ

ส่วนดีของโช๊คอัพแบบหลักเกณฑ์ Twintube
แรงเสียดสีภายในกระกล่าวมีเล็กน้อย โช๊คอัพรั่วยาก
ข้อเสียของโช๊คอัพแบบหลักเกณฑ์ Twintube
สะสมความร้อนมากยิ่งกว่า มีจังหวะเกิดฟองอากาศได้ง่ายยิ่งกว่า นำมาซึ่งการทำให้ความนุ่มหนึบขาดหายไป จึงไม่เหมาะสมกับการเคลื่อนขี่ในระยะทางไกล ๆ

โช๊คอัพแบบ Monotube
โช๊คอัพแบบ Monotube หรือกระกล่าวเดี่ยว เป็นเทคโนโลยีที่ปรับปรุงขึ้นเพื่อให้ได้การขับขี่ที่นุ่มนวลและแน่นหนึบมากยิ่งกว่าเดิม ตัวกระบอกสูบเป็นกระพูดเดี่ยว ๆ มิได้ถูกแยกประเภทเป็น 2 ลำดับ จึงสามารถบรรจุน้ำมันไฮดรอลิกได้จำนวนมากกว่าแบบ Twintube จึงสนองตอบและดูดซับแรงกระแทกได้มากมายยิ่งกว่า

น้ำมันและแก๊สภายในกระกล่าวแบบ Monotube จะถูกตัวลูกสูบกั้นเอาไว้ โดยข้างบนเป็นส่วนของน้ำมัน ส่วนแก๊สจะอยู่ข้างล่างของกระพูด เมื่อแรงกระแทกดันตัวโช๊คอัพยุบตัวลง ลูกสูบจะดันน้ำมันลงมาจนกำเนิดแรงดันจากส่วนของแก๊สที่อยู่ด้านล่าง เมื่อกำเนิดแรงดันเพิ่มขึ้น แก๊สข้างล่างก็จะดันตัวลูกสูบให้เคลื่อนตัวสูงมากขึ้นจนกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม

ส่วนที่ดีของโช๊คอัพแบบ Monotube
น้ำมันไฮดรอลิกมากกว่า จึงสนองตอบการขับขี่ได้รวดเร็วทันใจกว่าเดิม
ลูกสูบใหญ่มากยิ่งกว่า รับแรงกระแทกได้จำนวนเยอะกว่า
ระบายความร้อนได้เหนือกว่า จังหวะเกิดฟองในน้ำมันก็เลยน้อยกว่า เหมาะสมกับการเคลื่อนขี่ระยะทางไกล
ข้อบกพร่องของโช๊คอัพแบบ Monotube
ราคาแพงกว่าโช๊คอัพแบบ Twintune

คุณลักษณะพิเศษ
เป็นโช๊คระบบเปิดสามารถเปิดซ่อมได้ตลอดอายุวิธีใช้งาน มัธยัสถ์ค่าใช้จ่ายสำหรับเพื่อการซ่อมบำรุง
ให้ความนุ่มนวลสำหรับในการขับเคลื่อนขี่
โช๊คสามารถปรับเซ็ทค่าน้ำหนักได้
เหมาะสมเพื่อใช้งานในเมืองและเดินทางไกล
ทนทานต่ออุณหภูมิสูงโดยที่ความหนืดเปลียนแปลงน้อยมาก
มีระบบการระบายความร้อนที่ดีผ่านผนังระดับเดียว
สมควรหลากหลายใบหน้าวิธีใช้งาน
ชมแลรักษาและติดตั้งได้ง่าย
สามารถปรับลำดับชั้นนำ้หนักได้ 24 อันดับ Compress 2 ท่อ
สามารถปรับลำดับนำ้หนักได้ 24 ดีกรี Rebound 1 ท่อ
ขีดสุดของระบบโช๊ค ซึ่งสามารถใช้งานได้ทุกสภาพถนนได้เป็นอย่างดี ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ที่ครอบคลุมทุกวิธีใช้งาน บนถนนทั่วไป(On Road) ออฟโรด(Off Road) กระทั่งสนามแข่ง

โต้ง 086-669-9440
โต้ง 086-669-9440
13 ต.ค. 2553
ตอน 15:30 น.
แจ้งลบ
โช้คอัพโปรเฟนเดอร์ และสินค้าตกแต่งรถออฟโรดที่ส่งออกไปหลากหลายประเทศ กับการผลิตโช้คที่เข้าถึง ใบหน้านิสัยวิธีใช้รถใช้ถนนของคนไทยอย่างแท้จริง

– GAS BORE 40 MM / มูลค่าและราคาคู่ละ 4,400 บาท
– กันสบัดสปริงคืนศูนย์ RTC Steering Damper / ราคาตัวละ 3,425 บาท ความยาว 21 กับ 24 นิ้ว (Update Price)
– กันสบัดสปริงคืนศูนย์ RTC Steering Damper (รุ่นใหม่เปลี่ยนอะไหล่ได้) / มูลค่าตัวละ 4,230 บาท ความยาว 21 กับ 24 นิ้ว (Update Price)
– Adjustable Shock Bore 35 mm ปรับ 4 กระพูดเหลือง / ราคาคู่หน้า 7,650 บาท / มูลค่าและราคาคู่ข้างหลัง 6,120 บาท ทั้งชุด 13,770 บาท (Update Price)
– Monotube 2.0 Series / มูลค่าและราคาคู่หน้า 10,593 บาท / ราคาคู่ข้างหลัง 7,297 บาท ทั้งชุด 17,890 บาท (Update Price)
– Monotube 2.5 Series / มูลค่าและราคาคู่ละ 12,840 บาท
– Mono Gas / ราคาคู่หน้า 10,593 บาท / ราคาคู่ข้างหลัง 7,297 บาท
– Mono Gas – 8 Steps Adjustable / มูลค่าคู่หน้า 15,836 บาท / ราคาคู่หลัง 14,017 บาท
– OEM Performance 2.0 Series / มูลค่าคู่ละ 21,828 บาท
– OEM 2.0 with Fin Tube Reservoir – 8 Steps Adjustable / มูลค่าคู่ละ 27,820 บาท (Update Price)
– OEM Performance 2.5 Series / มูลค่าและราคาคู่ละ 25,680 บาท (ส่งออกอย่างเดียว)
– OEM 2.5 with Fin Tube Reservoir – 8 Steps Adjustable / มูลค่าคู่ละ 34,240 บาท (ส่งออกอย่างเดียว)
– Piggy Back 8 Steps Adjustable / ราคาคู่ละ 17,120 บาท
– 2 Ways Adjustable 2.0 Series / ราคาคู่หน้า 31,000 บาท / มูลค่าและราคาคู่ข้างหลัง 24,000 บาท
– ปีกนกปรับองศา (Upper Control Arm) / มูลค่าและราคาคู่ละ 14,750 บาท (Update Price)
– สายเติมลมไนโตร (Fil-Pro-02 Nitrogen Filler with hose 1.5M ) / มูลค่าและราคา 2,850 บาท (Update Price)

1.รถกระบะส่วนใหญ่ มีความกระด้างติดตัวมา ด้วยเหตุว่าผู้สร้างดีไซน์มาให้บรรทุกหนักๆ ถ้าใครที่ใช้รถกระบะในชีวิตเป็นกิจวัตร บรรทุกบ้าง ไม่บรรทุกบ้าง จึงหงุดหงิดกับการสะเทือนสะท้านนี้เหตุเพราะด้านหลังเป็นแหนบ ออกมาเพื่อจะใช้บรรทุกและมีความนุ่มนวลต่ำลงมากยิ่งกว่าระบบสปริง แต่ถ้าผู้บริโภครถคัดสรรค์จำพวกโช้คอัพแบบโมโนทิวบ์แรงดันสูงที่มีการออกแบบค่าDamping (แรงดึงแรงหนืด)อย่างรู้เรื่อง โช้คอัพท์โมโนทิวบ์ ที่มีแรงดึงสูง จะมีขีดความสามารถรั้งแรงดีด นี้ และมีผลให้ ผู้โดยสารรับรู้ ไม่แปรปรวนและมั่นใจ แทนการสะท้านจากแหนบดีด และลดการโยนตัวของรถ

2.ลูกสูบของ โมโนทิวบ์ เป็นแบบ High Flow ตอบสนองต่อแรงด้านนอกฉับไว ในทันที แปลงเลน ไวๆอย่างหมวดหมู่เราเนี่ย เอาอยู่จริงๆ profender โช๊ค

3.ความสามารถไม่มีตก วิ่งยาวนานไม่มีเหนื่อย เนื่องจากว่าระบายความร้อนจากตัวของเราเองเร็วทันใจม๊ากก น้ำมันในโช้ค ไม่เป็นฟองเพราะว่ามีแรงดันสูงบีบอัดฟองให้ขาดหายไป ซึ่งฟองอากาศเนี่ยเป็นตัวร้ายทีเดียวที่ทำให้ประสิทธิภาพโช้คแปรไป ไม่เหมือนเดิม

Toyota New Fortuner ผมเพิ่งไปแปลงโช๊คอัพมา ผมเลยต้องการพยายามรีวิว ผมเองได้พยายามทำความเข้าใจหาข้อมูลอยู่พอสมควรก่อนจะตัดสินใจเลือกเฟ้น ที่ผมเลือกของโปรเฟนเดอร์ สิ่งแรกเลยคือมูลค่าและราคา และประสิทธิภาพ โดยรวมผมถือว่าดีเลย ผมเองเลยตัดสินใจเข้าไปเปลี่ยนแปลง ซึ่งเขามีศูนย์บริการที่โรงงานเลยครับ ดูแลอย่างดีผมเลยเชื่อถือ ของผมที่พยายามแปรไปใช้ตัว โมโนทิวบ์ ซึ่งเป็นแบบไร้แทงค์นะขอรับ ผมจัดเปลี่ยนแปลงยกชุดเลย (ทั้งคู่หน้าและคู่หลัง) ซึ่งราคารวมๆกันก็โดยประมาณ 16,000 ไม่เกิน 17,000 ผมถือว่าโอเคเลยครับผม

ต่อจากนั้นผมของทดสอบเทสรถเลย ด้วยความจำเป็นทดสอบ ผมใช้ความรวดเร็วมากมายยิ่งกว่า 100กม/ชม. อย่างเนียนครับผมพูดเลย ลงคอสะพานนี่สบายๆเลยครับผมไม่มีการสะบัด เข้าโค้งอย่างเนียน ฟิวนี่หนึบๆเลยครับผม แล้วที่ผมถูกใจยังมีอีกอย่างนึงคือการเก็บรอยตะเข็บได้เนียนจริงๆ ถือได้ว่าประทับใจ

เอาข้อมูลของโช๊คตัวนี้ที่ผมจำลองเรียนรู้มาฝากด้วยนะขอรับเผื่อมีประโยชน์กับผู้คนที่กำลังมองหาโช๊คอัพ
1.เป็นระบบ โมโนทิวบ์ ลูกสูบใหญ่ถึง 46mm เป็นระบบ High Flow สนองตอบต่อแรงของรถได้ดิบได้ดี
2.ติดตั้งแบบ Up side Down ฝากน้ำหนักของตัวโช้คไว้ด้านบน ทำให้ได้สมรรถนะเวลาข้างล่างอย่างเต็มที่
3.ฝุ่นโคลน ไหลลงด้านล่างไม่ไปอัดที่ซีลของโช้คอัพ ช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่าที่เคยเป็น
4.ระบบโมโนทิวบ์ ใช้ลูกสูบระบบHigh Flow ซึ่งหมายความว่ารูไม่น้อยเลยทีเดียว ถ่ายเทน้ำมันในระบบรวดเร็วทันใจมาก การตอบสนองของแรงดึงแรงกด
5.แก็สที่ถูกเติมในตัวโช้คคือไนโตรเจนซึ่งเป็นแก็สเฉื่อยไม่ติดไฟ ไม่ต้องกลัวจะระเบิด
ผมติดใจเลยอยากพยายามเขียนไว้เผื่อช่วยเพื่อที่จะนๆสำหรับการตัดสินใจเฟ้นโช๊คอัพ

อาการแบบนี้น่าจะเหมือนตอนข้างล่างอีกยี้ห้อครับผม แข็ง วิ่งทางตรงนิ่ง เข้าโค้งนิ่งไม่โคลง
แต่ถ้าฝนตกตัวผู้ใดตัวมัน แต่ปัจจุบันนี้ผมใช้ all new แล้ว ทำให้ถึงกลับจำเป็นต้องเซ็งกับขณะ
ข้างล่างครับ อันตรายมากตอนขับด้วยความรวดเร็วทันใจ เกิน 80 อันนี้ทอลองมากับตัวของเราเอง

รถกระบะส่วนมากเมื่อขับแล้วจะสัมผัสถึงแรงกระด้างมากยิ่งกว่ารถปกติ เนื่องด้วยผู้สร้างได้ออกแบบมาให้บรรทุกของหนัก ๆ ถ้าผู้ใดที่ใช้รถกระบะในชีวิตรายวันคงจะรับรู้หงุดหงิดกับการสะเทือนนี้เนื่องมาจากด้านหลังเป็นแหนบที่ดีไซน์มาเพื่อใช้บรรทุกและมีความนุ่มนวลต่ำลงยิ่งกว่าระบบสปริง แต่หากคนซื้อรถเลือกเฟ้นใช้โช๊คอัพ PROFENDERรุ่นโมโนทิวบ์ ตัวโช๊คจะมีแรงดึงสูง มีขีดความสามารถรั้งแรงดีดที่มีต้นเหตุที่เกิดจากการขนของหนัก ซับแรงกระแทกได้ดีดีเยี่ยมที่สุด ช่วยลดการโยนตัวของรถ นำมาซึ่งการทำให้ผู้โดยสารสัมผัสไม่แปรปรวนและมั่นใจระหว่างขับขี่

กลับสู่หน้าหลัก – grabncap.com