โต๊ะทำงาน คุณภาพดี

โต๊ะทำงาน คุณภาพดี – โต๊ะ เป็นเครื่องเรือนที่มีพื้นผิวด้านบนเรียบขนานกับพื้น รองรับน้ำหนักโดยขาโต๊ะ โดยอาจใช้สำหรับวางสิ่งของ เช่น อาหาร หนังสือ ฯลฯ โดยความสูงมีความพอเหมาะสำหรับการนั่ง และโดยมากจะใช้คู่กับเก้าอี้ โต๊ะในยุคก่อนหน้านี้ จะแตกต่างจากปัจจุบัน โดยโต๊ะในปัจจุบันมักไม่มีลิ้นชัก โต๊ะที่มีไว้สำหรับเขียนและทำงานในออฟฟิศจะเรียก โต๊ะทำงาน ซึ่งจะมีลิ้นชักอย่างน้อย 1 อันหรือมากกว่านั้น โต๊ะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามลักษณะโครงสร้าง คือ โต๊ะพับได้ และโต๊ะพับไม่ได้ โต๊ะทำงาน คุณภาพดี  ในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกมากมายตามชนิดและวัสดุที่ใช้ในการทำ จึงควรเลือกซื้อโต๊ะทำงานที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย มีความทนทาน สวยงาม เคลื่อนย้ายได้สะดวก และราคาที่ไม่แพงจนเกินไป

การวัดคุณภาพ

        การตรวจสอบคุณภาพโต๊ะที่ดีนั้น ให้ดูจากการผลิตลิ้นชัก ลิ้นชักคุณภาพสูงจะมีรางเลื่อนที่แข็งแรง โดยใช้เหล็กทำล้อเลื่อน ให้แน่ใจว่าถึงแม้ในลิ้นชักจะใส่ของหนักไว้ก็ยังสามารถเปิดปิดได้อย่างไม่ติดขัด และควรจะเปิดออกมาได้สุด เพื่อที่จะได้ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ เราสามารถตรวจสอบคุณภาพของโต๊ะทำงานไม้ได้จากลิ้นชักอีกเช่นกัน โดยโต๊ะที่มีคุณภาพสูงจะประกอบลิ้นชักด้วยสลักลิ้นเชื่อมต่อ แทนที่จะใช้ตัวเย็บหรือกาว และด้านล่างของลิ้นชักควรจะทำด้วยไม้อัดมากกว่าแผ่นพลาสติกเมลานิน โต๊ะทำงานสำหรับโต๊ะลามิเนทนั้น ควรจะดูจากชนิดของลามิเนทถ้าลามิเนทมีความหนาจะยิ่งดี จะทนต่อรอยด่าง รอยขีดข่วน รอยบวมน้ำ และรอยอื่น ๆ ได้ดีกว่าลามิเนทที่บาง ยิ่งไปกว่านั้น โต๊ะที่มีราคาแพงโดยมากจะมีมุมที่มีลักษณะมน มากกว่ามุมเหลี่ยม สิ่งแรกที่บ่งชี้ได้ถึงคุณภาพของโต๊ะเหล็กก็คือความหนาของแผ่นเหล็ก โดยประเมินได้จากความรู้สึกถึงความแข็งแรงของการประกอบและน้ำหนักโดยรวมของโต๊ะ และอีกจุดที่ควรจะสังเกตก็คือลักษณะลิ้นชักเวลาปิด โต๊ะที่ประกอบไม่ดี จะมีช่องว่างระหว่างลิ้นชักกับโต๊ะ

ความคงทน

         การรับประกันอาจสามารถบ่งบอกถึงอายุการใช้งานได้ โดยทั่วไปโต๊ะทำงานระดับกลางจะมีการรับประกันอยู่ที่ 5 ถึง 15 ปี ในขณะที่โต๊ะคุณภาพสูงจะออกแบบให้คงทนถาวร ใช้ได้ตราบนานเท่านานส่วนที่มักจะถูกใช้งานหรือถูกสัมผัสมากที่สุดคือขอบโต๊ะ โดยเฉพาะตรงมุมและตรงกลางใกล้กับเก้าอี้ คุณอาจจะลองตรวจสอบการลอกหลุดหรือบิ่นของขอบโต๊ะได้ และที่สำคัญภาพรวมของโต๊ะทำงานต้องดูมีความแข็งแรงมั่นคง

5 เรื่องน่ารู้ จัดฮวงจุ้ยโต๊ะทํางาน เสริมความสำเร็จ ชีวิตรุ่งเรือง 

1. ด้านซ้ายของโต๊ะ วางของที่มีความเคลื่อนไหว
ด้านซ้ายมือของโต๊ะ เรียกว่า “ฝั่งมังกรเขียว” เปรียบเสมือนมังกรขยับเคลื่อนไหวที่มีชีวิตชีวา จึงควรวางสิ่งของที่มีการเคลื่อนไหวเป็นประจำ หยิบจับบ่อย เช่น ปากกา ดินสอ สมุดจดบันทึก แก้วน้ำดื่ม กระดาษโน้ต ลิ้นชักใส่ของที่เปิดบ่อย โน้ตบุ๊ก ต้นไม้จริง (มีการเติบโต, มีการเคลื่อนไหว) ฯลฯ เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้การงานมีความเจริญก้าวหน้า ไม่หยุดนิ่งกับที่ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ เวลามีคนเข้ามาคุยงานที่โต๊ะ ควรให้เข้ามาทางด้านซ้ายมือของโต๊ะ เพราะช่วยเสริมเรื่องอำนาจในการเจรจาต่อรอง

2. ด้านขวาของโต๊ะ วางของที่มีความนิ่ง
       ด้านขวามือของโต๊ะ เรียกว่า “ฝั่งเสือขาว” เปรียบเสมือนเสือสงบนิ่งน่าเกรงขาม จึงควรวางสิ่งของที่นิ่งๆ ใช้งานน้อย ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว เช่น หนังสือ ตำราความรู้ ลิ้นชักเก็บของและเอกสาร รูปถ่าย ต้นไม้ปลอม แจกันดอกไม้ ฯลฯ โดยฝั่งนี้จะเป็นพลังของความรู้และความคิดสร้างสรรค์ สามารถเลือกวางของที่ช่วยเสริมกำลังใจและแรงบันดาลใจได้

3. ตำแหน่งฮวงจุ้ยโต๊ะทํางาน ตามวันเกิด
       บริเวณด้านหลังโต๊ะทำงานควรเป็นกำแพง ไม่ควรเป็นทางเดิน ประตู หรือกระจก เพื่อหลบเลี่ยงความวุ่นวาย โดยส่วนใหญ่หากเป็นพนักงานบริษัทก็จะหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ไม่ได้ แต่สามารถปรับแก้ฮวงจุ้ยได้ด้วยการนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิงสูง นอกจากนี้ บางคนก็นิยมจัดโต๊ะทำงาน ด้วยหลักทิศนำโชคตามวันเกิด เพื่อเสริมดวงให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ดังนี้

  • เกิดวันอาทิตย์ ทิศนำโชคคือ ทิศใต้
  • เกิดวันจันทร์ ทิศนำโชคคือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้
  • เกิดวันอังคาร ทิศนำโชคคือ ทิศตะวันตก
  • เกิดวันพุธ ทิศนำโชคคือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
  • เกิดวันพฤหัสบดี ทิศนำโชคคือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
  • เกิดวันศุกร์ ทิศนำโชคคือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้
  • เกิดวันเสาร์ ทิศนำโชคคือ ทิศเหนือ

4. แก้เคล็ดนั่งตรงทางสามแพร่ง ใต้คาน ติดเสา
การจัดโต๊ะทำงานตามหลักฮวงจุ้ย ไม่ควรนั่งติดประตู หรือทางสามแพร่ง เนื่องจากเป็นจุดที่มีความวุ่นวาย อาจทำให้การงานมีอุปสรรค ไร้สมาธิ แต่สำหรับคนที่ทำงานเกี่ยวกับการติดต่อภายนอก เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เหมาะแก่การนั่งติดประตู สำหรับวิธีแก้ฮวงจุ้ยในจุดนี้ ให้นำต้นไม้มงคล, ฉากบัง, ลูกแก้วคริสตัลที่มีกระจกสะท้อน มาตั้งไว้ใกล้ๆ โต๊ะ เพื่อจะได้ช่วยสะท้อนและดูดซึมพลังแห่งความวุ่นวายไว้แทนนั่นเอง

ส่วนอีกตำหน่งที่ไม่ควรจัดโต๊ะทำงานเลยก็คือ ใต้คาน และ ติดเสา เพราะเชื่อว่าจะมีแต่ความเครียด งานไม่เจริญก้าวหน้า ต้องแบกรับหน้าที่ความรับผิดชอบมากมาย ดังนั้นวิธีปรับแก้ฮวงจุ้ย ควรหาหลอดไฟ หรือโคมไฟเล็กๆ มาเพิ่มแสงสว่างไล่พลังงานไม่ดี รวมถึงการขยับโต๊ะออกจากจากเสา ไม่ให้แนบติดชิดเสา ก็จะช่วยให้เกิดพลังงานสภาพแวดล้อมดีๆ ขึ้นได้

5. สิ่งของเสริมมงคลบน โต๊ะทำงาน
หลายคนอาจคิดว่าการวางรูปสัตว์มงคล หรือรูปปีนักษัตร จะช่วยเสริมการทำงานให้ดียิ่งขึ้น แต่จริงๆ แล้วอาจจะสร้างความ “ชง” กับผู้อื่นได้ จนทำให้เกิดพลังงานที่ไม่ดี ไม่สมดุล ไม่เกื้อหนุนกับผู้อื่น เช่น อาจจะชงกับหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน หรือปีก่อตั้งบริษัท (แต่สำหรับผู้บริหารที่มีห้องทำงานส่วนตัว สามารถวางได้) แต่ขอแนะนำสิ่งของเสริมมงคลประเภทอื่นๆ ที่จะช่วยเสริมฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน เช่น

  • โคมไฟ LED, เทียนหอม : ช่วยส่งเสริมพลังงานดีๆ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบ การคิด และการใช้ความคิดสร้างสรรค์
  • นาฬิกาทรายน้ำ, น้ำพุฮวงจุ้ยขนาดตั้งโต๊ะ, ลูกแก้วน้ำพุ : ช่วยส่งเสริมเรื่องการรับทรัพย์ สร้างโชคด้านการเงิน เพราะเชื่อว่าของประดับที่เป็นของเหลว และมีการเคลื่อนไหว จะช่วยให้เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดมือ เหมาะกับคนที่ทำธุรกิจ หรือมีอาชีพค้าขาย
  • ต้นไม้มงคลไร้หนาม : ช่วยส่งเสริมเรื่องการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เหมาะสำหรับทุกอาชีพ ควรหาไม้ประดับชื่อมงคลมาวางไว้ เช่น ต้นวาสนา, ต้นออมเงินออมทอง, ต้นกวนอิมเงิน เป็นต้น (สำหรับต้นกระบองเพชร ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ไม่ควรวางบนโต๊ะทำงาน เพราะเป็นต้นไม้มีหนาม สื่อถึงอุปสรรคและความเหนื่อยยากในการทำงาน ซึ่งถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล)

ประเภทของโต๊ะทำงาน

          แยกตามลักษณะของการใช้งาน

  1. โต๊ะทำงานทั่วไป อาจวางวัสดุอุปกรณ์ใช้งานเล็กน้อย วางเอกสารตามหน้าที่
  2. โต๊ะทำงานที่เป็นโต๊ะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะด้วย ลักษณะงานหลายอย่างทุกวันนี้ จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์ในการใช้งานประจำแต่ละบุคคล โต๊ะทำงานจึงต้องเลือกตามความเหมาะสม
  3. โต๊ะทำงานเฉพาะสาขาวิชาชีพ เช่นโต๊ะเขียนแบบ เป็นต้น

แยกตามประเภทของวัสดุที่ใช้

  1. โต๊ะไม้ จะเป็นไม้จริงหรือไม้อัดก็มี เน้นเรื่องความสวยงาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความกลมกลืนของสีในที่ทำงานหรือสิ่งตกแต่งอื่นๆ ด้วยว่า จะเหมาะกับโต๊ะทำงานที่เป็นสีไม้หรือไม่
  2. โต๊ะลามิเนท เป็นตัวเลือกสำหรับหน่วยงานที่ต้องการใช้งานนานๆ เพราะทนต่อรอยด่าง รอยขีดข่วน รอยบวมน้ำ
  3. โต๊ะเหล็ก มีความคงทนมาก แต่การระวังรักษาก็ต้องพิเศษเหมือนกัน เพราะเหล็กเป็นสนิมได้ และมีน้ำหนักมาก อาจไม่ค่อยสะดวก หากมีการเคลื่อนย้าย หรือปรับระเบียบการนั่งในที่ทำงานใหม่

ความสำคัญของโต๊ะทำงาน

  1. ใช้สำหรับวางเอกสาร อุปกรณ์ สำหรับทำงานตามการใช้งาน
  2. เป็นภาพลักษณ์ขององค์กร เวลาเข้าไปติดต่องานที่หน่วยงานสักแห่ง หากเข้าไปพบว่า มีการจัดโต๊ะทำงานของพนักงาน เจ้าหน้าที่อย่างเป็นระเบียบ โต๊ะทำงานมีลักษณะเหมือนกันทั้งหมด สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นมาตรฐานของหน่วยงานนั้นๆ ไปในตัวว่า มีความประณีต เอาใจใส่ ระเบียบ เชื่อแน่ว่า แม้ในการทำงานก็จะรักษามาตรฐานไปด้วย

โต๊ะทำงานจึงมีความสำคัญมากกว่าจะใช้ทำงาน

การเลือกโต๊ะทำงาน

  1. เลือกวัสดุที่ใช้ ตามความเหมาะสม ต้นทุน คำนึงถึงการใช้งาน การดูแลทำความสะอาด เป็นต้น และคำนึงถึงอายุการใช้งานด้วย
  2. ลักษณะตามความเหมาะสมของเนื้องาน โต๊ะทำงานออฟฟิศทั่วไป มีลิ้นชักสำหรับใส่ของ อุปกรณ์ ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพของรางเลื่อน
  3. ความมนของขอบโต๊ะ เพื่อป้องกันเรื่องอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
  4. ขนาดและสีสัน ส่วนใหญ่เลือกสีเรียบ ดูสงบ เพื่อให้สีช่วยจัดระเบียบความคิดขณะทำงานไปในตัว สีสดใส ไม่เหมาะสำหรับเป็นโต๊ะทำงาน
    5. คุณภาพเฉพาะ การตัดสินใจเลือกโต๊ะทำงานนั้น ต้องมีการเช็คคุณภาพเป็นพิเศษในเรื่องความคงทนต่อการกระทบ การขีดข่วน การทำความสะอาด อันตราย เป็นต้น
    6. ความสูงของโต๊ะ ต้องได้มาตรฐาน เหมาะแก่การนั่งทำงาน และเลือกเก้าอี้ให้เหมาะกับโต๊ะ
  5. กระจก ส่วนใหญ่เพื่อรักษาพื้นผิวโต๊ะที่มีโอกาสขีดข่วนสูง โต๊ะทำงานมักมีกระจกวางซ้อนอีกชั้นหนึ่ง หรือโต๊ะทำงานบางประเภทจะมีกระจกขายคู่กัน

กลับสู่หน้าหลัก – grabncap