อาหารเจ

อาหารเจ 

 

อาหารเจ เริ่มต้นเดือนตุลาคมกับเทศกาลสำคัญของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน นั่นก็คือ “เทศกาลกินเจ” หรือที่เราคุ้นหูกันดีว่าเทศกาลถือศีลกินผักนั่นเอง โดยปีนี้เทศกาลกินเจ เริ่มต้นวันที่ 4-13 ต.ค. นี้ 

 

เทศกาลกินเจมีเพื่ออะไร ?? 

คำว่า “เจ” เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว ภาษาจีนกลางออกเสียง “ไจ” หมายถึงการรักษาอุโบสถศีล หรือ ศีล 8 ละเว้นจากการกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งจุดประสงค์ของการกินเจก็เพื่อเป็นการถวายสักการะพระราชาธิราชทั้ง 9 พระองค์ โดยการให้สาธุชนตั้งปนิธานในการละเว้นของคาว และอาหารที่มีกลิ่นฉุนต่างๆ เช่น กระเทียม ขึ้นฉ่าย กุ๋ยช่าย ต้นหอม ซึ่งอาหารคาว และอาหารที่มีกลิ่นฉุน รสชาติจัดจ้าน ทำให้ธาตุต่างๆ ในร่างกายของมนุษย์แปรปรวน

 

ผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด ที่ห้ามทานช่วงกินเจ

งดบริโภคผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด เนื่องจากตามความเชื่อของชาวจีนฮกเกี้ยน ซัวเถา (ต้นกำเนิดประเพณีถือศีลกินผักในไทย) เชื่อว่าผักกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิดนี้จะไปทำลายธาตุทั้งห้าในร่างกาย ได้แก่ 

– กระเทียม : ทำลายธาตุไฟ ทำให้หัวใจทำงานไม่ปกติ

– หอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอม : ทำลายธาตุน้ำ ทำให้ไตทำงานไม่ปกติ

– กุยช่าย : ทำลายธาตุไม้ ทำให้ตับทำงานไม่ปกติ

– หลักเกียว (คล้ายกระเทียมโทน) : ทำลายธาตุดิน ทำให้ม้ามทำงานไม่ปกติ

-ใบยาสูบ (สูบบุหรี่) : ทำลายธาตุโลหะ ทำให้ปอดทำงานไม่ปกติ

 

ทำไมเราต้องกินเจ ?

1.กินเจ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เพราะอาหารเจถือเป็นอาหารชีวจิตอย่างหนึ่ง ช่วยปรับสภาพร่างกายให้สมดุล ล้างพิษในร่างกาย รวมถึงช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะคนจีนเชื่อว่า เนื้อสัตว์เป็น “หยิน” และผักผลไม้เป็น “หยาง” โดยธรรมชาติคนเรามักทานเนื้อสัตว์เยอะกว่าผักผลไม้ การงดทานเนื้อสัตว์จึงเป็นการปรับให้หยินและหยางสมดุลมากยิ่งขึ้นด้วย

 

2.กินเจ เพื่อทำบุญ เพื่อชำระล้างใจให้ใสสะอาด ไม่เบียดเบียนสัตว์โลก ทำให้จิตใจเราผ่องใสมากขึ้น เมื่อเราทราบว่าสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องที่ดี ก็จะส่งผลต่อจิตใจที่เบิกบาน เป็นสุขขึ้น

 

3.กินเจ เพื่อละเว้นกรรม ที่เกิดจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือแม้กระทั่งการจ้างฆ่าเพื่อการบริโภค หากเราทราบว่าการงดบริโภคเนื้อสัตว์ เป็นการช่วยชีวิตสัตว์นับพันนับหมื่น เราก็จะช่วยลดกรรมของเราได้มากขึ้น

 

แล้วทำไมต้องล้างท้อง ?

การล้างท้องหมายถึง เริ่มกินเจก่อนถึงวันเริ่มต้นเทศกาลจริง 1-2 วันเพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับสภาพ และทำความคุ้นเคยกับการกินเจได้ดียิ่งขึ้น

 

รวมเมนู อาหารเจ อาม่า Box มีเมนูอะไรบ้าง ?

อาหารเจหลากหลายเมนู สามารถเลือกสั่งได้เลย ไม่มีเบื่อแน่นอน ทางอาม่าบ๊อค พยายามเลือกสรรเมนูเจ ให้มีความแตกต่างจากร้านทั่วไป เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสั่ง โดยทางร้านจะมีเมนูดังนี้ อาจมีเปลี่ยนแปลงตามวัน สามารถเข้าชมเมนูผ่านทางหน้าเว็บได้ armabox.net ไปดูกันดีกว่าว่ามีเมนูอะไรบ้าง ?

 

-ก๋วยเตี๋ยวหลอด (เจ) 

มาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด กลมกล่อม รสไม่จัดจ้าน 

 

-ข้าวคะน้าหมูกรอบ (เจ) 

ทางร้านใช้เป็นโปรตีนเกษตรที่มีมาตรฐาน คล้ายคลึงกับการทานหมูกรอบจริงๆ

 

-ข้าวคั่วกลิ้งโปรตีนเกษตร (เจ)

ทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อร่อยจนลืมเนื้อหมูไปเลย

 

-ข้าวจับฉ่าย (เจ)

มีประโยชน์ เน้นผักหลากหลายชนิดต้มรวมกัน 

 

-ข้าวฉู่ฉี่เต้าหู้ (เจ)

ปกติฉู่ฉี่มักจะทำคู่กับเนื้อปลา วันนี้ลองเปลี่ยนจากปลาเป็นเต้าหู้ ก็อร่อยไปอีกแบบนะ

 

-ข้าวต้มยำเจเห็ดรวม (เจ)

รวมเห็ดหลากหลายชนิด รสชาติไม่เน้นรสจัด ทานได้สบายๆ ซุปร้อนๆ กับข้าวสวยร้อนๆ ต้องสั่งแล้ว เมนูนี้ เหมาะกับการทานหน้าฝนจริงๆ

 

-ข้าวผัดผักรวมมิตรเต้าหู้ (เจ)

คุณประโยชน์ครบถ้วนไปด้วยผักหลากหลายชนิด ผัดรวมกัน ใช้ซอสเจผัด หอมน่าทาน เป็นเมนูที่ลูกค้านิยมสั่งมาก

 

-ข้าวผัดฟักทอง (เจ)

เสริฟแบบแยกข้าวและกับข้าว ฟักทองหวานๆผัดกับซอสเจ หอมกรุ่น

 

-ข้าวผัดห้าเซียน (เจ)

ข้าววผัดรวมผัก และโปรตีนเกษตร และต่างๆอีกมากมาย ผัดคู่กับซอสเจ 

 

-ข้าวฟองเต้าหู้คั่วพริกเกลือ (เจ)

เมนูใหม่ที่หาทานทั่วไปไม่ค่อยได้ เมนูนี้อร่อยมาก ฟองเต้าหู้คั๋ซกับพริกเกลือ คล้ายกับหมูคั่วพริกเกลือเลย แค่ไม่ได้ใส่กระเทียมเท่านั้น

 

-ข้าวใบเหลียงผัดเต้าหู้ (เจ)

โดยปกติจะทานเป็นใบเหลียงผัดไข่ กินเจทั้งที เปลี่ยนจากไข่เป็นเต้าหู้ละกัน อารมณ์ก็คล้ายๆกันเลย ถือว่าได้ความแปลกใหม่ อร่อยไม่ซ้ำใคร

 

-ผัดหมี่ซั่วเจ (เจ)

เป็นเมนูที่นิยมเป็นอย่างมาก สำหรับคนชอบทานเส้น รสชาติกลมกล่อม รสไม่จัด ผัดรวมกับผักต่างๆหลากหลายสี ประโยชน์เน้นๆ

 

-ยากิโซบะผัด (เจ)

ใช้เส้นยากิโซบะ ผัดคล้ายคลึงกับหมี่ซั่วเจ ใส่ผักต่างๆ มีคุณประโยชน์ เหมาะสำหรับคนชอบทานเส้นเป็นอย่างมาก

 

-ยำเห็ดรวม (เจ)

สำหรับคนชอบทานยำ อาม่าบ๊อค ก็จัดให้ได้ ยำเห็ดรวม มากมายไปด้วยคุณประโยชน์ครบถ้วน รสกลางๆไม่จัดจ้าน ถือว่าทานแก้ขัดยำไม่เจไปก่อน

 

สำหรับคนที่กำลังจะเริ่มกินเจก็ถือเป็นเรื่องดี กินเท่าที่เรามีความตั้งใจก็ได้ ดีกว่าไม่ได้เริ่ม คนที่กินเจแล้วไม่ได้มีโอกาสไปไหว้ศาลเจ้าก็ไม่ใช่ไม่ดี เอาตามที่เราสะดวก แต่มีความตั้งใจแล้วได้ทำบ้างถือว่าเป็นเรื่องดี ส่วนเรื่องชื่ออาหารที่เหมือนอาหารปกติที่มีเนื้อสัตว์นั้น คุณจิตรา บอกกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ชื่อเหล่านี้เพื่อให้คนกินไม่เป็น ได้รู้จักว่าเลียนแบบมาจากเมนูอะไร คนจะได้นึกภาพออก แต่เชื่อว่าไม่ได้ทำให้ยึดติดหรือละเนื้อสัตว์ไม่ได้ อยู่ที่คนคิดบวกหรือลบ อยากให้บอกตัวเองว่าปีนี้ไม่ได้เต็มที่ไม่เป็นไร ปีต่อๆ ไปยังมี และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาอาหารเจที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นด้วย

 

กลับสู่หน้าหลัก http://grabncap.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *